
หลวงพ่อชา สุภัทโท กล่าวเอาไว้…
“ ธรรมชาติคนเราดูแต่คนอื่น 90 % ดูตัวเองแค่ 10 % ”
ธรรมชาติของจิตใจคน..
มันจะเข้าข้างตัวเองอยู่เรื่อยไป
คือคอยดูแต่ความผิดของคนอื่น
เพ่งโทษคนอื่น
คิดแต่จะแก้ไขคนอื่น
คนอื่นทำอะไรก็ดูไม่ดีไปหมด
กลับเสียใหม่นะ ดูคนอื่นเหลือไว้ 10 %
10 % นั้นก็แค่.. ดูเพื่อศึกษา เอามาสอนตัวเองนั่นแหละ
บางอย่างเห็นเขาทำแล้วมันไม่ดี ก็ไม่ต้องไปตำหนิเขา
แต่เอามาเป็นบทเรียนให้ตัวเอง
ให้รู้ไว้ว่าทำแบบนั้นไม่ถูก ไม่ควร
ความผิดของคนอื่นเท่าภูเขา
ความผิดของตนเท่าเส้นผม
มันเป็นความจริงอย่างนั้นด้วย…!!
เราจึงต้องระวังความรู้สึกนึกคิดของตัวเองให้มาก ๆ
อย่าให้มันลำเอียงมากไป อย่าให้มันเข้าข้างตัวเองเกินไป
เห็นความผิดของคนอื่น ให้หารด้วย 10
เห็นความผิดตัวเอง ให้คูณด้วย 10
จึงจะใกล้เคียงกับความจริงและยุติธรรม
เพราะเหตุนี้เราจะต้องพยายามมองแง่ดีของคนอื่นมาก ๆ
และตำหนิติเตียนตัวเองมาก ๆ
ดูตัวเอง สนใจแก้ไขตัวเองนั่นแหละมาก ๆ
อยากมีความสุขมากขึ้น ก็ยุ่งเรื่องของคนอื่นให้น้อยลง
อยู่กันคนละโลก อย่าไป ‘ยุ่ง’ เรื่องของเขา
ถ้าคุณมัวแต่จับจ้อง ‘วิจารณ์’ เรื่องของเขา
มันบ่งบอกว่า…. คุณ “ไม่มีอะไรดี” หรือ “ว่างจนไม่มีอะไรทำ”
ชีวิตคุณจะ “ไม่มีความสุข”
เพราะ มัวแต่ไปเปรียบเทียบกับคนอื่น
ถ้ารู้ตัวว่ากำลังชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น…
อ่านแล้ว เผื่อทำให้ฉุดคิด
เพราะยิ่ง “อยากรู้” เรื่องคนอื่นเท่าไหร่…
ยิ่งบ่งบอกถึงความ “มั่นคงในจิตใจ”
ของคุณ “ที่ต่ำ” มากเท่านั้น
กฎ 5 ข้อที่ทำให้ชีวิตมีความสุขมาก…!!
1. ถ้ายังไม่ “เก่ง” พอ… อย่า “วิจารณ์” คนอื่น…!!
2.ถ้ายังไม่ “ฉลาด” พอ… อย่า “อวดรู้” กับคนอื่น…!!
3.ถ้ายังไม่ “สำเร็จ” พอ… อย่า “ดูถูก” คนอื่น…!!
4.ถ้ายังไม่ “รวย” พอ… อย่า “โอ้อวด” คนอื่น…!!
5.ถ้ายังไม่ “ดี” พอ… อย่า “วิจารณ์” เรื่องคนอื่น…!!
…
พยายามอย่าสนใจการกระทำการปฏิบัติของคนอื่น
ดูตัวเองสนใจแก้ไขตัวเองนั่นแหละมากๆ เช่น
เข้าครัวเห็นเด็กทำอะไรไม่ถูกใจแล้วก็เกิดอารมณ์ร้อนใจ
ยังไม่ต้องบอกให้เขาแก้ไขอะไรหรอก
รีบแก้ไขระงับอารมณ์ร้อนใจของตัวเองเสียก่อน
เห็นอะไรคิดอะไรรู้สึกอย่างไรก็สักแต่ว่าใจเย็นๆไว้ก่อน
ความเห็นความคิดความรู้สึกก็ไม่แน่อาจจะถูกก็ได้อาจจะผิดก็ได้
เราอาจจะเปลี่ยนความเห็นก็ได้
สักแต่ว่าใจเย็นๆไว้ก่อนยังไม่ต้องพูด
ดูใจเราก่อน สอนใจเราก่อน หัดปล่อยวางก่อน
เมื่อจิตปกติแล้วจึงค่อยพูดจึงค่อยออกความเห็น
พูดด้วยเหตุด้วยผลประกอบด้วยจิตเมตตากรุณา
ขณะมีอารมณ์อย่าเพิ่งพูดทำให้เสียความรู้สึกของผู้อื่น
ทำให้เสียความรู้สึกของตัวเอง ไม่เกิดประโยชน์เท่าที่ควร
มักจะเสียประโยชน์ซ้ำไป เพราะฉะนั้น อยู่ที่ไหน อยู่ที่วัด
อยู่ที่บ้าน ก็สงบๆ ไม่ต้องดูคนอื่นว่าเขาทำผิด
ดูแต่ตัวเราระวังความรู้สึก
ระวังอารมณ์ของเราเองให้มากๆ
พยายามแก้ไขพัฒนาตัวเรา
เห็นอะไรชอบ ไม่ชอบ ปล่อยไว้ก่อน
เรื่องของคนอื่นพยายามอย่าให้เข้ามาที่จิตใจเรา
ถ้าไม่ระวังก็จะยุ่งกับเรื่องของคนอื่นไปเรื่อยๆ
หาเรื่องอยู่อย่างนั้นเอาเรื่องโน้นเรื่องนี้มาเป็นเรื่องของเราหมด
มีแต่ยินดียินร้ายพอใจไม่พอใจทั้งวัน
อารมณ์มากจิตไม่ปกติไม่สบาย ทั้งวันก็หมดแรง
…
ระวังนะ
พยายามตามดูจิตของเรา
รักษาจิตของเราให้เป็นปกติให้มาก
ใครจะเป็นอะไร ใครจะทำอะไร ดีหรือไม่ดี เรื่องของเขา
แม้เขาจะทำกับเรา ด่าว่าเรา ก็เรื่องของเขา
อย่าเอามาเป็นอารมณ์
อย่าเอามาเป็นเรื่องของเรา
ดูใจเรานั่นแหละ พัฒนาตัวเองนั่นแหละ
ทำใจเราให้ปกติ สบายๆ มากๆ
หัด-ฝึก ปล่อยวาง นั่นเอง ไม่มีอะไรหรอก
“ไม่มีอะไรสำคัญกว่าการตามรักษาจิตของเรา คิดดี พูดดี ทำดี มีความสุข”
เป็นตาฮัก