
1. ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น
เป็นสิ่งสำคัญมาก หากขาดข้อนี้ไปอาจทำให้คุณลืมใครสักคนได้ยากมาก เพราะการยอมรับความจริงเป็นพื้นฐานของชีวิต หากอยากให้ชีวิตของตัวเองมีความสุข ไม่จมปลักกับอดีต คุณต้องเริ่มจากการยอมรับความจริงให้ได้ก่อน
2. หาข้อดีของเรื่องนี้ให้เจอ
วิธีตามหลักจิตวิทยาที่ดีคือการคิดบวก หาข้อดีของเรื่องที่เกิดขึ้นให้เจอ เช่น คุณเป็นฝ่ายอกหัก โดนทิ้ง ก็ให้คิดคิดซะว่าได้ตัดคนไม่รักจริงออกไป หรือการที่ต้องแยกทางกับใครสักคน ให้คิดว่าการเปลี่ยนแปลงแยกทาง จะทำให้ต่างคนต่างเจอสิ่งที่ดีกว่า
3. อยู่กับตัวเองมากขึ้น
การลืมใครสักคนเป็นเรื่องที่ยาก เพราะ.. คุณไม่เคยอยู่กับตัวเองมากพอ ให้ความสำคัญตัวเองไม่มากพอ หรือกระทั่งรักตัวเองไม่มากพอ จึงทำให้คุณไม่เข้าใจตัวเองว่าจริง ๆ แล้ว การขาดใครไปสักคนในชีวิตไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เป็นการที่ต้องรับความจริงที่เกิดขึ้นให้ได้
4. ใส่ใจชีวิตให้ถูกจุด
เนื่องจากคนส่วนใหญ่มักจะเอาตัวเองไปยึดติดกับคนอื่น ทำให้ลืมใครบางคนเป็นเรื่องที่ยาก ดังนั้นการใส่ใจชีวิตให้ถูกจุด อย่างเช่น ใส่ใจตัวเอง ใส่ใจกับเป้าหมายในชีวิต ใส่ใจกับปัจจุบันและตัดสิ่งที่ผ่านไปแล้วทิ้งไป ก็จะช่วยให้คุณผ่านพ้นหรือลืมใครสักคนไปได้
5. ตัดการติดต่อทั้งหมด
มีสถิติจำนวนไม่น้อยพบว่า คนส่วนใหญ่มักจะใจอ่อนและซึมเศร้าอยู่กับการลืมใครสักคนเป็นเวลานาน เนื่องจากไม่ยอมตัดขาดกันให้ได้จริง ๆ โดยเฉพาะช่องทางโซเชียล ยิ่งคุณเข้าไปรู้เรื่องที่เกี่ยวกับเขามากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้คุณลืมเขาได้ยากมากเท่านั้น
6. มองอนาคตของตัวเอง
สิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้คุณลืมใครสักคนได้ง่ายขึ้น คือ การมองหาอนาคตของตัวเอง จากนั้นก็กำหนดเส้นชัยหรือเรียกว่าเป้าหมายในชีวิต การมองอนาคตที่สดใสของตัวเองเหมือนเป็นแรงกระตุ้นที่จะทำให้คุณลืมอะไรบางอย่างไปโดยไม่รู้ตัว
7. ตั้งใจทำตามเป้าหมาย
การตั้งเป้าหมายในชีวิต จะทำให้คุณดำเนินทุกสิ่งอย่างในเส้นทางที่กำหนดไว้ เช่น คุณตั้งเป้าหมายไว้ว่าปลายปีนี้จะต้องลดน้ำหนักให้ได้ 10 กิโลกรัม คุณก็จะมีความคิดที่โฟกัสอยู่จุดนั้นเช่นเดียวกับการลืมใครสักคน หากคุณมัวแต่คิดย้อนหลัง ไม่มองไปที่อนาคต ชีวิตคุณก็อาจไม่พบกับเป้าหมายที่ดีกว่าได้เลย
หากคุณกำลังอยากจะลืมใครสักคน หรือพยายามจะเก็บเขาให้อยู่ในจุดที่เล็กที่สุดของความทรงจำอยู่ ก็ให้ทั้ง 7 ข้อนี้เป็นแนวทางในการเปลี่ยนอดีตให้กลายเป็นความสุขของชีวิต และที่สำคัญมันจะทำให้คุณมองเห็นตัวเองในมุมดี ๆ ได้อย่างยั่งยืน
ขอบคุณข้อมูลจาก : youqueen.com
เรียบเรียงโดย : เป็นตาฮัก